จากกรณีที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเสียชีวิต

สัปเหร่อโหลดตั้งแต่เผาศพเหยื่อติดเชื้อไวรัสโคโรน่าครอบครัวมีแต่คนรังเกียจ

       จากกรณีที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเสียชีวิตและทางวัดได้มีการรับศพไปบำเพ็ญกุศลและดำเนินการเผาศพให้โดยมีสัปเหร่อประจำวัดเป็นผู้ดำเนินการเผาให้นั้น   ทางด้านสัปเหร่อที่เป็นผู้เผาศพให้กับครอบครัวของผู้ติดเชื้อได้ออกมาขอความเห็นใจผ่านทางผู้สื่อข่าวเนื่องจากหลังจากที่มีการเผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าไปครอบครัวของสัปเหร่อได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

เพราะเมื่อมีคนรู้เรื่องว่าสัปเหร่อเป็นคนเผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าต่างก็พากันรังเกียจตัวสัปเหร่อเองเพราะว่าเกรงว่าจะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ติดมากับตัวสัปเหร่อรวมถึงเมียของสัปเหร่อก็ถูกรังเกียจเช่นเดียวกันซึ่งล่าสุดเมียของสัปเหร่อถูกสั่งให้พักงานเป็นเวลานานถึง 14 วันด้วยกันเพียงเพราะว่าสามีไปเผาศพคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่นายเอกสิทธิ์ชายวัย 70 ปีเจ็บป่วยเสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้วญาติไม่สามารถที่จะหาที่เผาศพให้ได้จนล่าสุดมีวัดแห่งหนึ่ง  อยู่เขตมีนบุรีทำการจัดงานศพให้นายเอกสิทธิ์ไปเมื่อวันที่ 25 เดือนมีนาคมแต่หลังจากที่มีการจัดงานศพให้เรียบร้อยแล้วนั้นผลปรากฏว่าทางสัปเหร่อเองกับพบปัญหา

เนื่องจากชาวบ้านรังเกียจที่สัปเหร่อไปทำการเผาศพให้กับคนติดเชื้อไวรัสโคโรน่าช่วยผลกระทบนี้ไม่ได้โดนที่สัปเหร่อคนเดียวแต่คนในครอบครัวของสัปเหร่อคนนี้โดนหมดไม่ว่าจะเป็นลูกหรือแม้แต่ภรรยาโดยมีภรรยาของสัปเหร่อเป็นลูกจ้างรายวันเท่านั้นหลังจากที่ ทำงานของภรรยาสัปเหร่อรู้เรื่องเข้าว่าสามีของเธอไปทำการเผาศพให้กับผู้ที่มีอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่ามาทางบริษัทก็สั่งพักงานภรรยาของสัปเหร่อคนนั้นทันทีโดยให้กับตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน

ซึ่งทางสัปเหร่อเองก็เป็นกังวลใจว่าช่วงที่มีการกักตัวนั้นภรรยาจะไม่ได้รับเงินเดือน แผนที่บริษัทก็ยังบอกให้ไปตรวจการติดเชื้อไวรัสโคโรนาโดยต้องมีเอกสารจากทางโรงพยาบาลไปเป็นหลักฐานยืนยันด้วยซึ่งปัญหาตรงนี้สร้างความเสียหายให้กับสัปเหร่อเป็นอย่างมากเพราะมันต้องมีค่าใช้จ่ายหลายพันบาทโดยตัวสัปเหร่อเองกับภรรยาก็ไม่ได้เป็นคนที่มีเงินมากนัก

    ผลกระทบนี้ตั้งสัปเหร่อยืนยันอ่านหนังสือว่าคุณหมอที่โรงพยาบาลออกมายืนยันให้แล้วว่าผู้ที่ตายไปแล้วเชื้อไวรัสโคโรน่าก็จะตายตามผู้ที่ติดเชื้อดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีการแพร่เชื้อเพราะทุกอย่างหลังจากที่มีการทำเสร็จไม่ว่าจะเป็นการเผาศพตัวสัปเหร่อเองก็มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรวมถึงสถานที่ต่างๆภายในวัดที่มีการนำศพไปตั้งไว้ก็มีการฉีดยาฆ่าเชื้อทั้งหมด

ดังนั้นไม่มีใครติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอาการเผาศพแน่นอนโดยทางสัปเหร่อยังฝากมาบอกอีกด้วยว่าให้นึกถึงคนที่ตายไปแล้วบ้างว่าเขาก็ตายไปแล้วถ้าไม่มีใครทำการเผาศพให้กับเขาแล้วศพของเขาจะไปเผาที่ไหนให้นึกถึงใจเขาใจเรา 

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa