หมวดหมู่: สังคมทั่วไป

การตอนกิ่งไผ่กิมซุง

การตอนกิ่งไผ่กิมซุง

สำหรับสูตรทำตุ้มที่เอาไว้ใช้สำหรับการทำตอนกิ่ง

  • กะปิ ครึ่งช้อนโต๊ะ
  • ขุยมะพร้าว 1กำมือ
  • น้ำเปล่า  ครึ่งแก้ว
  • ถุงพลาสติก 1ถุง
  • เชือกฟาง2เส้น

สำหรับกะปินั้นมันจะมีสารที่จะเข้ามาช่วยเร่งรากเพราะว่ามันจะมีสารไคโตซานอยู่แล้ว ซึ่งกะปิของเรานั้นจะใช้ประมาณครึ่งช้อนโต๊ะจากนั้นก็นำเอาน้ำครึ่งแก้วเอามาใส่เทลงคนให้มันเข้ากันจากนั้นให้ใส่ขุยมะพร้าว1กำมือคนให้มันได้เข้ากัน และนี่ก็คือสำหรับ1กิ่งพันธุ์ที่เราจะต้องตอนจากนั้นคนให้เข้ากันเสร็จแล้วให้นำเอามาใส่ถุงจากนั้น

เราก็ฉีดตรงกลางถุงและก็มัดติดกับกิ่งที่เราต้องการจะตอนได้เลย เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว รอดูอีกประมาณ15วันค่อยมาดูกิ่งที่เรานั้นได้ตอนเอาไว้ การทำเกษตรทำไมมันถึงได้ทำง่ายจัง ซึ่งมันก็คือเราไม่ต้องไปทำอะไรให้มันลำบากมากนักถ้าหากว่าเรานั้นได้ทำงานโรงงาน8โมงเช้าเลิก5โมงเย็น และถ้าหากว่าเราได้มาทำเกษตรเริ่ม8โมงเช้าเลิก5โมงเย็น

เหมือนเดิมมันก็จะยังอยู่เหมือนเดิมเราจะไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแต่ก่อนที่เราจะมาทำการเกษตรนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเหมือนกัน ซึ่งแต่ก่อนเป็นพนักงานโรงานคลังสินค้าก็ถือว่ารายได้ดี2คนได้80,000-90,000บาทแล้วแต่ช่วงและถ้าหากมันดีแล้วจะออกมาทำไม ซึ่งมันก็มีอยู่หลายอย่างและก็หลายเรื่องในทั้งหมดทั้งเครียดกับงานและเครียดกับคนเดี๋ยวก็ลูกน้องก็มาบอกว่าคนนั้นไม่ทำงานคนนี้ไม่ทำงานและเขาก็มีเรื่องทะเลาะจนถึงขั้นตีกัน

ส่วนมากในโรงงานเป็นวัยรุ่นมันก็หลายอย่าง ก็เลยปรึกษาเริ่มพูดคุยกับแฟนว่าไม่ไหวแล้วก็เลยพูดกับแฟนว่าจะขอทำงานอีก5ปีพอครบ5ปี4วันไปลาออกเลย ทั้งคุ่ได้มีเงินเก็บจากการทำงานสองคนประมาณ9แสนบาทจากนั้นก็ได้เอามาซื้อที่เพื่อจะลงทุนทำการเกษตร ซึ่งเขาได้ทำการปลูกเพาะพันธุ์ไม้ไผ่กิมซุง และยังมีแปลงมินิฟาร์ม ที่เอาไว้ใช้สอยสำหรับคนที่มีพื้นที่น้อยหากใครมีพื้นที่น้อยก็อาจจะแบ่งออกมาเป็น30ตารางเมตรแต่หากว่าเรานั้นมีพื้นที่น้อยกว่านั้นก็ลดลงมาก็ได้ก็อาจจะเหลือประมาณ10ตารางเมตร สำหรับแปลงผักนี้ัมันมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง

คือคนพิการที่นั่งวีลแชร์สามารถเข้าไปปลูกผักได้ นอกจากนี้คนที่จะเข้ามาซื้อเขาก็จะรู้สึกว่าปลอดภัยเพราะมันไม่ติดกับพื้นเวลาที่ฝนนั้นตกลงมามันก็จะไม่ไหลเข้ามาที่แปลงผัก สำหรับแปลงผักนี้อยู่ที่ประมาณ80เซนติเมตรระดับความสูงคนแก่บางคนอาจจะหลังค่อมไปแล้วก็ทำต่ำลงมาอีกหน่อยหรือคนที่ยังไม่แก่หลังยังดีอยู่ก็อาจจะทำสูงขึ้นมาหน่อย

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  bk8

เมืองน้ำมันที่ได้มีความเก่าแก่มากที่สุดในโลก

เมืองน้ำมันที่ได้มีความเก่าแก่มากที่สุดในโลก

สำหรับOil Rocksได้เป็นเมืองที่ได้มีการขุดเจาะของแหล่งของน้ำมันที่มีการได้รับจัดอันดับว่ามันได้เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในโลก ซึ่งมันได้ตั้งอยู่ในทะเลแคสเปียนและได้อยู่ในพื้นที่ประเทศของอาเซอร์ไบจาน

โดยได้ออกห่างออกไปจากชายฝั่งประมาณ55กิโลเมตรอีกทั้งมันยังได้ประกอบไปด้วยของเกาะเทียมที่มันได้มีทั้งแท่นที่เอาไว้ สำหรับขุดเจาะน้ำมันมากกว่าประมาณ2,000แท่นและยังได้มีโรงแรมและด้านศูนย์การค้าและด้านคอมแพคด้านอื่นๆที่มันได้มีความเชื่อมต่อเข้าหากันด้วยถนนที่ลอยอยู่ในการทะเลที่มันได้มีความยาวประมาณ300กิโลเมตรที่มันได้ลอยอยู่กลางทะเลนั้น

และ ยังได้ว่ากันว่าในช่วงที่มันฮิตมากที่สุดในช่วงปีประมาณ1960ได้มีคนมาทำงานที่นี่สูงถึงประมาณ5,000คนกันเลยทีเดียว  Oil Rocksนั้นถือได้ว่ามันได้เป็นมรดกที่ได้มีการตกทอดสืบการมาจากสหภาพของโซเวียตหลังจากที่ได้มีการเข้าไปสำรวจผลของน้ำมันที่อยู่ใต้ท้องทะเลแคสเปี้ยนที่มันได้มีระดับความลึกประมาณ1.1กิโลเมตร โดยได้มีการเริ่มโครงการมาตั้งแต่ในปี1945และสามารถที่จะผลิตได้จริงๆเมื่อปี1991 แต่สำหรับอย่างไรก็ตามในทุกๆ

วันนี้หลังจากที่ได้มีความผันผวนของทางด้านเศรษฐกิจและราคาของน้ำมันตั้งแต่ศตวรรษที่70 นั้นได้ว่ากันว่า Oil Rocksนั้นมันไม่ได้อยู่ในสภาพที่มีความอู้ ฟู่เหมือนเดิมอีกต่อไปทั้งถนนที่มันเคยใช้งานได้ประมาณ300กิโลเมตรมันกลับกลายมาเหลือแค่เพียง45กิโลเมตรเท่านั้นอีกทั้งนี้มันก็ยังยากที่จะหาข้อมูลในปัจจุบัน เพราะเนื่องากว่าทางด้านของรัฐบาลนั้นไม่ได้ต้องการที่จะให้เปิดเผยให้มันได้เข้าสู่สถานที่สาธารณะอีกทั้ง ณ ที่เมืองแห่งนี้มันก็ยังได้ถือว่ามันได้เป็นความภาคภูมิใจแห่งชาติที่มันได้มีการตกทอดมาจากของยุคโซเวียต และในทุกวันนี้ทางข้อมูลทางด้านในปัจจุบันของ Oil Rocksนั้น

มันก็ยังยากที่มันจะเอามายืนยันเพราะว่าสถานที่แห่งนี้มันได้ถูกควบคุมโดยจากทางด้านของรัฐบาลที่จะไม่ให้มีการเผยแพร่หรือให่บุคคลที่อยู่ภายนอกนั้นได้เข้ามาหาข้อมูลในด้านต่างๆที่มันได้เกี่ยวข้องกับสถานีแท่นขุดเจาะน้ำมันว่ามันมีความเป็นมาอย่างไรตั้งแต่ในยุคสมัยของโซเวียตที่ได้ทิ้งแท่นคุดเจาะน้ำมันขนาดใหญ่นี้เอาไว้และได้หลงเหลือมายังในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะไม่อยู่ในสภาพที่ร้อย%แล้วก็ตามแต่มันก็ยังได้มีการถูกปิดห้ามไปให้นำเอาไปเผยแพร่และมันได้ถูกปิดกั้นของทางสหภาพรัฐที่คอยป้องกันอยู่นั้นเอง

สัตว์ที่อยู่รอดได้โดยที่ไม่ต้องกินน้ำนานถึง8วัน

สัตว์ที่อยู่รอดได้โดยที่ไม่ต้องกินน้ำนานถึง8วัน

เชื่อว่าทุกคนจะต้องเคยเจอกับสภาพอากาศที่เลวร้ายกันมากบ้างแล้วไม่มากก็น้อยและไม่ว่าจะเจอสภาพอากาศที่หนาวจัดจนแทบทนไม่ไหวหรือเจออากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทยเป็นประจำเหงื่อไหลเปียกไปทั้งตัวได้แต่บ่นในใจว่าไม่ไหวแล้วนั่นก็เป็นเพราะร่างกายของมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ทนทานได้ทุกกับสภาพอากาศแต่ก็มีสิ่งทดแทนคือมันสมองที่สามารถสร้างที่พักพิงไว้หลบร้อนครายหนาวได้วันนี้เราจะพามาพบกับสัตว์ที่มันสามารถที่จะเอาตัวรอดได้ในอาณาจักรของสัตว์

Camel

ในดินแดนแห่งความสุดขั่วที่มีอากาศที่ร้อนสุดขั่วและคุณจะต้องแกร่งพอสมควรที่จะเอาตัวรอดในทะเลทรายได้เป็นเวลาหลายพันปีที่ผู้คนจะต้องเดินทางข้ามดินแดนอันแห้งแร้งอย่างอารเบีย

โดยจะใช้สัตว์นั้นเป็นยานพาหนะโดยมีฉายาว่าสำเภาทะเลทรายแต่ในบางคนนั้นไม่ได้เปรียบเทียบพวกมันเอาไว้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นและบางคนนั้นก็ได้เรียกพวกมันว่าหมาตามใจขณะเดินทาง

แต่ในขณะเดินทางนั้นก็ย่อมจะต้องรู้ดีว่าถึงแม้ว่าอูฐนั้นจะมีรูปร่างที่อัปลักษณ์แต่พวกมันก็ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แม้แต่ม้าเองก็ยังไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้อูฐนั้นมีความสามารถที่ปรับสภาพให้เข้ากับทะเลทรายได้อย่างเก่งมากในที่ที่แห้งแร้งร้อนและอาหารไม่เพียงพอและยังไม่ใช่เพียงแค่นั้นมันยังมีความสามารถที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งพวกอูฐนั้นสามารถแบกน้ำหนักได้ถึง600ปอนด์เป็นเวลา10ชั่วโมง

ต่อวันโดยที่พวกอูฐนั้นไม่ต้องกินน้ำหรืออาหารอะไรเลยและพวกมันนั้นก็ยังมีเปลือกตาสองชั้นที่ได้ช่วยในการมองเห็นจึงทำให้พวกมันนั้นสามารถที่จะเดินข้ามทะเลทรายได้โดยที่มันนั้นหลับตาอยู่ดังนั้นอูฐจึงกลายเป็นพระเอกที่โด่งดังที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับในการเดินข้ามทะเลทรายแต่ที่ได้มีความผิดไปจากส่วนใหญ่นั้นก็คือโหนกของพวกมันนั้นไม่ได้ใช้

เอาไว้สำหรับกักเก็บน้ำแต่ที่จริงแล้วโหนกของมันนั้นจึงเต็มไปด้วยไขมันที่พวกมันนั้นได้เก็บเอาไว้ใช้เป็นพลังงานสำรองได้ยามที่พวกมันนั้นจะต้องเผชิญไปกับความลำบากที่จะต้องอยู่ท่ามกลางของทะเลทรายและไม่เพียงแค่อูฐเท่านั้นที่จะสามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้ดีกว่าตัวเราเท่านั้นแต่มันนั้นยังมีชีวิตที่อยู่รอดได้ถึงแม้ว่ามันนั้นจะสูญเสียน้ำหนักไปมากกว่า25%

และมันยังอยู่รอดได้โดยที่พวกมันนั้นไม่ต้องไปกินน้ำนานถึง8วันกันเลยทีเดียวและอูฐนั้นยังเป็นสัตว์ที่ได้มีความแข็งแกร่งไปกว่าสัตว์อื่นๆอีกด้วยและถ้าจะให้ม้าลองมาอยู่ในทะเลทรายก็คงจะไปรอดอย่างแน่นอน

การสร้างกระแสในชาตินิยมของซัดดัม ฮุสเซน

การสร้างกระแสในชาตินิยมของซัดดัม ฮุสเซน

ซัดดัม ฮุสเซน เขาได้พัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดดจนทำให้เขานั้นได้รับรางวัลจากยูเนสโก้ขององค์การสหประชาชาติถึงแม้ว่าซัดดัม ฮุสเซนจะนับถือศาสนาอิสลามนิกายซุนนีแต่เขาก้ได้ทุ่มเทพัฒนาเงินทองและทรัพยากรต่างๆมากมายในการพัฒนามัสยิดและสถานที่ที่เอาไว้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์

ซึ่งได้เป็นอีกนิกายหนึ่งโดยไม่แบ่งแยกหรือวว่ากีดขวางสิทธิ์เสรีภาพในการนับถือศาสนานิกายดังกล่าวถึงแม้ว่าในขณะนั้นอิหร่านประเทศเพื่อนบ้านของอิรักกำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วยรัฐบาลของพระเจ้าชาหรือโมฮัมหมัด เรชา ปาห์ลาวีได้ถูกผู้นำทางศาสนานิกายชีอะห์ที่ไดรู้จักกันดีได้ทำการโค้นล้มและสถาปนารัสที่ปกครองด้วยหลักกฏหมายบริสุทธิ์

ซึ่งทางซัดดัม ฮุสเซนก็ได้มีความกังวนว่าแนวความคิดในการสถาปนารัสอิสลามบริสุทธิ์ของโคมมีนี่นั้นก็จะเข้ามายังที่ประเทศอิรักและก็ทำให้อำนาจของเขาถูกสั่นคลอนไปด้วยในที่สุดเมื่อซัดดัม ฮุสเซนได้ก้าวขึ้นสู่ประธานาธิบดีของประเทศอิรักในปี1979เขาก็ได้เร่งสร้างกระแสชาตินิยมในหมุ่ประชาชนในหมู่ชาวอิรักวิธีการของเขาก็คือการอ้างไปถึงในความยิ่งใหญ่อาณาจักรเมโสโปเตเมียในอดีตได้มีการกล่าวถึงพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ยิ่งใหญ่

แห่งอาณาจักรอาณาจักรบาบิโลนและพระเจ้าฮัมมูราบีซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของอิรักในอดีตการรวมทั้งยังพยายามเชื่อมโยงของตัวซัดดัม ฮุสเซนว่าเปรียบเสมือนบุตรพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์การสร้างกระแสชาตินิยมในประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เกรียนไก่ในอดีตนั้นส่งผลให้ชาวอิรักมีความรักชาติมีความภาคภูมิใจในชาติและนำไปสู่ความปึกแผ่น

แต่ในขณะเดียวกันกล่าวกันว่าการสร้างกระแสชาตินิยมในครั้งนี้ส่งผลลบในบางด้านเช่นส่งผลให้ประชาชนบางส่วนกลายมาเป็นผู้คั่งชาติดูถูกชาติที่เป็นศัตรูหรือชาติที่ด้อยกว่าการที่ด้านซัดดัม ฮุสเซนได้ก้าวขึ้นดำรงค์ตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นเขาได้ทำทุกอย่างเพื่อประชาชนทั่วประเทศชาติเวลาที่เขานั้นได้เดินทางไปพบปะประชาชนซัดดัม ฮุสเซนจะนำเอาเงินสดไปด้วยเป็นจำนวนมาก

เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ออกมาต้อนรับมีการสร้างสถานสงเคราะห์ขึ้นมามากมายทั่วประเทศรวมทั้งได้มีการกำเนิดให้ชาวอิรักทุกคนที่มีอายุต่ากว่า45ปีจะต้องรู้หนังสืออ่านออกเขียนได้หากใครที่ไม่ปฏิบัติตสมนั้นก็จะถูกลงโทษเพราะว่านี่ซัดดัม ฮุสเซนได้มองว่าหนังสือนั้นได้เป็นสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ

สำหรับในความทุ่มเทอย่างตั้งใจจริงนี้ได้ส่งผลให้คะแนนนิยมในตัวของซัดดัม ฮุสเซนได้พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมากประชาชนชาวอิรักต่างก็ได้ประดับประดาบนกำแพงไปด้วยรูปภาพของซัดดัม ฮุสเซนเอาไว้เต็มฝาผนังบ้านในสถานที่ต่างๆและตามท้องถนนทั่วไป

 

ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนโดย  bk8

สภาพแวดล้อมต่างๆที่เราควรเรียนรู้

สภาพแวดล้อมต่างๆที่เราควรเรียนรู้

สิ่งแวดล้อมที่เราจะนำมาบอกให้ได้ฟังกันมีดังนี้ แม่น้ำ และ ต้นไม้ เพราะทั้งสองสิ่งนี้นับว่าเป็นทรัพยากรที่มันอยู่ไกล้ตัวของเราทุกวัน

ทรัพยากรอย่างแรกเลยที่เราอยากจะพูดให้ทุกคนได้ฟังกัน คือ แม่น้ำ สำหรับในอดีตแหล่งแม่น้ำก็ได้มีความสำคัญมากเช่นกันทั้งเอาไว้ใช้สำหรับในการเดินทางและเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันแต่ครั้งก่อนนั้นเราสามารถที่จะตักน้ำที่แม่น้ำนั้นนำเอามาใช้ซักผ้าถูบ้านหรือสามารถที่จะใช้เป็นประจำวันได้เช่นเดียวกันซึ่งมันก็ได้แตกต่างไปจากกับปัจจุบันนี้เลยทีเดียวที่มันมีทั้งเศษขยะในลำครองและทิ้งขยะลงในแม่น้ำจึงทำให้ระบบในน้ำเน่าเสียและทำให้แม่น้ำในลำครองนั้นมีสีที่ไม่เป็นแม่น้ำเอาสะเลยและแม่น้ำก็จะมีสีดำสกปรกและเป็นน้ำเสียเนื่องจากผู้คนทิ้งขยะและการปล่อยน้ำเสียที่มีสารเคมีลงในแหล่งแม่น้ำจากโรงงานอุตสาหกรรม

ดังนั้นวิธีการที่ควรจะต้องแก้ไขคือเราจะต้องไม่ทิ้งขยะเหล่านี้ลงสู่แม่น้ำลำคลองและไม่ปล่อยของเสียลงสู่แม่น้ำและถ้าคนในสังคมเรานั้นสามารถที่จะร่วมมือกันแม่น้ำเหล่านี้ก็จะกลับมาใสสะอาดอีกครั้งและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีอีกด้วยแต่อย่างไรก็ตามถ้าเราช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กันก็จะสามารถช่วยให้บ้านเมืองเรากลับมาใสสะอาดได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับในส่วนของทรัพยากรที่2ต้นไม้ 

ต้นไม้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สิ่งแวดล้อมเกิดมีการเปลี่ยนแปรงมากมายทั้งในอดีตและในปัจจุบันสำหรับเรื่องป่าไม้นั้นต้นไม้เป็นอีกหนึ่งที่ทำให้สัตว์ต่างๆนั้นสูญพันเพราะว่าเจ้าสัตว์ป่าเหล่านั้นที่จะต้นการต้นไม้เป็นที่พักอาศัยนั้นไม่มีและบวกด้วยกัยสภาพอากาศที่ได้มีการเปลี่ยนแปรงต่างๆและสำหรับการปรับตัวเพื่ออยู่ได้ในปัจจุบันและช่วยรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมและมีอีกหนึ่ง

วิธีที่จะทำให้พื้นป่านั้นกลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมก็คือเราจะต้องร่วมมือกันช่วยกันปลูกต้นไม้รักษาพื้นป่าให้เป็นธรรมชาติให้อยู่อุดมสมบูรณ์และก็ไม่ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อที่จะให้ธรรมชาตินั้นกลับมาเหมือนดังเดิม

สำหรับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ไกล้ตัวเช่นห้องเรียน ห้องเรียนถึงว่าเป็นสิ่งแวดล้อมที่อยู่ไกล้ตัวน้อยๆมากที่สุดและสำหรับน้องๆนักเรียนนั้นก็ควรที่จะจัดห้องเรียนให้มันเป็นระเบียบและห้ามมีสิ่งของที่เป็นขยะหลงเหลืออยู่เพราะว่ามันจะทำให้สกปรกและก็ควรที่จะจัดโต๊ะไม่ให้ขวางทางเดินดังสำหรับน้องๆในห้องเรียนก็ต้องจะรู้จัดการปรับตัวให้เข้ากับห้องเรียน

และสิ่งแวดล้อมสุดท้ายก็คือบ้านของเรานั้นเอง  บ้านถือว่าเป็นสิ่งแวดล้อมที่อยู่ไกล้ตัวเราเราก็ควรที่จะทำความสะอาดบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ และควรเก็บของให้เป็นระเบียบเช่นแปรงสีฟันควรอยู่ในห้องน้ำจานชามควรเก็บให้เป็นระเบียบควรอยู่ในห้องควรเสื้อผ้าควรแขวงและพับเก็บผ้าให้เป็นระเบียบรองเท้าก็ควรจัดเก็บเข้าชั้นวางหรือเรียงเป็นคู่ให้เรียบร้อย

สำหรับการที่เราเก็บของเป็นระเบียบนั้นนอกจากจะทำให้มันดูเป็นระเบียบแล้วยังสามารถให้เรานั้นหาของได้ง่ายอีกด้วย

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa