ปัญหาด้านความปลอดภัยในรั้วโรงเรียน

       เป็นประเด็นกันมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เมื่อต้องออกจากบ้านมาเรียนหนังสือ ซึ่งในอดีตเรามักจะเห็นข่าวครูตี เด็กนักเรียน โดยให้เหตุผลของการตีว่า ทำผิดระเบียบทั้งเรื่องการแต่งกาย การตัดผมที่ไม่ถูกกฎระเบียบของทางโรงเรียน และยังมีอีกมากมายหลายปัญหาที่เรามักจะเห็นในข่าว  รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่เด็กถูกทำร้ายเพราะครูเครียดมีปัญหาเรื่องส่วนตัว 

       อันที่จริงแล้วเหตุการณ์ครูใช้ความรุนแรงกับเด็กแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว เพราะกฎของกระทรวงศึกษาธิการก็มีออกมาแล้ว่า ไม่ควรที่จะมีการทำรุนแรงกับเด็กด้วยการตี การทำโทษเด็กนั้นมีมากมายหลายวิธี  ดังนั้นวิธีทำโทษด้วยการตีจึงเป็นเรื่องที่ล้าหลัง และยิ่งตีเด็กอายุ  3 ขวบจึงเป็นสิ่งที่ใครๆก็รับไม่ได้

       ผู้ปกครองส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน นั้น มีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบุคลากร หรือครูที่สอนลูกของตัวเองนั้นจะมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเด็ก  สามารถชี้แนะให้เด็กปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเด็กดื้อ มาเป็นเด็กดีได้ด้วยการพูดและการสอนสั่ง ไม่ใช่จากการทำโทษและการใช้ความรุนแรง

       สิ่งที่ทางโรงเรียนควรจะหยุดพฤติกรรมครูทำร้ายเด็กนั้น ควรเริ่มตั้งแต่การรับครูเข้ามาสอนในโรงเรียนเลยว่า ควรมีการทำแบบทดสอบเกี่ยวกับสุขภาพจิตของครูก่อนรับเข้ามาสอน และควรที่จะเลือกครูที่เรียนจิตวิทยาสำหรับเด็กมาดูแลเด็กระดับชั้นอนุบาลจะดีที่สุด เพราะเด็กในวัยนี้ยังเล็ก ยังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับการทำผิดหรือทำถูก ดังนั้นในฐานะที่เป็นครูจึงควรจะต้องค่อยค่อยสอนเด็ก แทนการทำโทษและไม่ควรใช้ความรุนแรงกับเด็กนั่นเอง 

      จะเห็นว่าในตอนนี้เราจะเห็นเหตุการณ์ การใช้ความรุนแรงกับเด็กในโรงเรียนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือเด็กโต  การที่ครูใช้คำพูดที่หยาบคายด่าเด็ก  ซึ่งปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทางด้านกระทรวงศึกษาธิการควรมีแนวทางส่งมายังโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศให้คอยมีการสอดส่งดูแล พฤติกรรมของครู และควรมีการออกกฏเกณฑ์ใหม่ในการรับคนเข้ามาบรรจุเป็นครู  ควรจะมีมาตรฐานการคัดคนที่จะมาเป็นครูให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบในครั้งนี้ขึ้นอีก

        การเพิ่มเนื้อหาข้อบังคับให้คนที่มีแนวความคิดที่ว่าจบมาแล้วต้องการที่จะมาเป็นครูนั้น ควรจะมีการเพิ่มวิชา จิตวิทยาให้เรียนเพิ่มเข้าไปด้วย เพื่อที่ครูจะได้รู้ว่าควรจะดูแลเด็ก และพูดคุยกับเด็กอย่างไรให้เด็กเข้าใจและเลิกพฤติกรรมดื้อได้  หากสามารถคัดกรองคนที่จะมาเป็นครูได้ ก็จะทำให้ปัญหาการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนลดน้อยลงไปเยอะมากอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    v9bet